ประเภทของน้ำมันไฮดรอลิคแบ่งได้เป็น 3 ประเภท 

1. น้ำมันไฮดรอลิคแบบทั่วไป (Mineral oil Hydraulic Fluid)

2. น้ำมันไฮดรอลิคกันไฟ (Fire resistance Hydraulic Fluid) 

3. น้ำมันไฮดรอลิคสังเคราะห์ (Synthetic Hydraulic Fluid) 

​

       น้ำมันไฮดรอลิคส่วนใหญ่นิยมใช้แบบ Mineral Oil ซึ่งเป็นผลิตภันฑ์จากการกลั่นน้ำมันดิบมีการปรับปรุงคุณภาพของน้ำมันไฮดรอลิคให้มีคุณสมบัติดังนี้

• ทนอุณหภูมิความร้อนได้เป็นอย่างดี

• ช่วยป้องกันการกัดกร่อนและลดการสึกหรอของอุปกรณ์

• หล่อลื่นได้ดีและไม่ทำปฏิกิริยากับ ยาง ซีล

• ไม่จับตัวเป็นก้อนหรือยางเหนียว

​

มี 3 ปัจจัยทำให้น้ำมันไฮดรอลิคเสื่อมสภาพเร็ว

   1.การเสื่อมสภาพของน้ำมันไฮดรอลิคจากปฏิกิริยาเคมีที่เกิดจากการรวมตัวของออกซิเจนกับสารอื่น (Oxidation)

        หากน้ำมันไฮดรอลิคถูกใช้งานในอุณหภูมิที่สูงเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ผลคือน้ำมันไฮดรอลิคจะเปลี่ยนสภาพจับตัวเป็นก้อนหรือยางเหนียวเนื่องจากการเสียโครงสร้างทางเคมี ทำให้อุปกรณ์ไฮดรอลิคเกิดความเสียหายและเครื่องจักรที่มีระบบไฮดรอลิคเป็นต้นกำลังหยุดทำงาน

   2.สารเพิ่มคุณภาพในน้ำมันไฮดรอลิคเสื่อมสภาพ

        ในน้ำมันไฮดรอลิคจะมีการเติมสารเคมี เพื่อให้มีคุณสมบัติที่เหมาะกับการใช้งานแต่ละประเภทอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมการบิน อุตสาหกรรมผลิตเหล็ก จะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน เมื่อใช้น้ำมันไฮดรอลิคเป็นเวลานานๆ คุณสมบัติทางเคมีจะเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน ดังนั้นระบบไฮดรอลิคจะมีข้อกำหนดในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันไฮดรอลิคตามชั่วโมงการทำงานของน้ำมันไฮดรอลิค

   3.สิ่งสกปรกจากภายนอกเข้าไปปะปน

         สิ่งสกปรกจากภายนอกเช่น น้ำ ฝุ่นผง เศษโลหะขนาดเล็กและอื่นๆ เมื่อเข้าไปปะปนกับน้ำมันไฮดรอลิคแล้วจะทำให้น้ำมันไฮดรอลิคเสื่อมคุณภาพ เช่น น้ำ เมื่อเข้าไปปะปนกับน้ำมัน เมื่อถูกตีปั่นด้วยปั๊มไฮดรอลิคจะทำให้น้ำมันไฮดรอลิคมีสีขาวขุ่นเพราะอนุภาคของน้ำแทรกอยู่ในเนื้อน้ำมัน ความหนืดจะเปลี่ยนไป และทำให้อุปกรณ์ไฮดรอลิคเกิดสนิมมีผลต่อการใช้งาน ในส่วนของฝุ่นผงหรือเศษโลหะเมื่อปะปนในน้ำมันไฮดรอลิคในจำนวนมากๆ จะไปขัดสีกับผิวโลหะของปั๊มหรือวาล์วไฮดรอลิคทำให้เกิดการสึกหรอไม่สามารถใช้งานได้