ประเภทสายลมในระบบ Pneumatic
ในงานระบบ Pneumatic สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่า อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Pneumatic Actuator, Pneumatic Valve, Fitting, Air Service Unit นั่นก็คือสายลม (Air Hose) นั่นเอง เพราะเมื่อผู้ใช้งานมีอุปกรณ์ลมต่างๆที่พร้อมจะใช้งานแล้ว แต่ไม่สามารถจะส่งพลังงานลมไปให้อุปกรณ์ต่างๆได้หรือส่งพลังงานลมไปได้ไม่เพียงพอก็จะทำให้อุปกรณ์ลม เหล่านั้นไม่สามารถทำงานได้หรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพของอุปกรณ์นั้นๆ ดังนั้น สายลมจึงถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญในระบบ Pneumatic เช่นกัน และนอกจากขนาดของสายลมที่มีสำคัญแล้ว ยังมีประเภทของสายลมที่มีความสำคัญ ซึ่งต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานเช่นกัน
ในงานระบบ Pneumatic สายลมนั้นมีอยู่หลายประเภท ซึ่งที่พบเห็นหรือนิยมใช้กันจะเป็นสายลม PU (Polyurethane), PA (Polyamide), PE(Polyethylene) และ PTFE(Teflon) ซึ่งแต่ละประเภทนั้นถึงแม้จะเป็นสายลมที่ใช้งานได้ในระบบ Pneumatic เหมือนกัน แต่ลักษณะในการใช้งานก็ยังคงมีความแตกต่างกัน
ประเภทของสายลม ในระบบ Pneumatic
1 สายลม PU (Polyurethane)
ขนาดสายลม ตั้งแต่ O.D. 4 mm - O.D. 16 mm อุณหภูมิการใช้งาน (-20)̊C – 60̊C
สายลม PU เป็นสายลมที่สามารถพบเห็นได้บ่อยมากที่สุด ใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยสายลมประเภทนี้ จะมีช่วงอุณหภูมิการใช้งานอยู่ที่ (-20)̊C – 60̊C โดยความดันใช้งาน จะแตกต่างกันออกไปตามขนาดความหนาของสายลม แต่ในเรื่องความดันที่ทนได้จะทนได้น้อยกว่าสายลม PA สายลม PE และ สายลม PTFE ซึ่งยิ่งใช้ในอุณหภูมิที่สูงขึ้นไป ความสามารถในการทนความดันก็จะลดลง โดยสายลมประเภทนี้ มีความอ่อนตัวสามารถดัดสายลมให้มีความโค้งได้มากกว่าสายลม PA สายลม PE และ สายลม PTFE ซึ่งในส่วนของการทนสารเคมีต่างๆ ของสายลมประเภทนี้จะทนสารเคมีได้น้อยกว่าสายลม PA สายลม PE และ สายลม PTFE
2 สายลม PA (Polyamide)
ขนาดสายลม ตั้งแต่ O.D. 4 mm - O.D. 16 mm อุณหภูมิการใช้งาน (-40)̊C – 80̊C
สายลม PA (Polyamide) หรือ สายลม Nylon ซึ่ง สายลม PA นั้น สามารถพบเห็นสายลมประเภทนี้ได้ในงานที่ต้องการวัสดุที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งยังมีการแบ่งประเภทสายลม PA เป็น อีก 2 ประเภท คือ สายลม PA11 และ สายลม PA12
-
สายลม PA11 หรือ Polyamide 11 เป็นโพลิเมอร์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นโพลิเมอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงโดย สายลม PA11 นั้น สามารถใช้ในงาน Food and Beverage สามารถใช้ในงานที่ต้องสัมผัสกับอาหารโดยตรงได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้กับแก๊สหรือน้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆได้ มีความสามารถในการทนสารเคมีที่หลายหลาย ทนความดันได้สูงกว่าสายลมประเภทอื่นๆ มีความยืดหยุ่นสูงและทนต่อการเสียรูปได้ดี
-
สายลม PA12 หรือ Polyamide 12 มีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกับ สายลม PA11 ในเรื่องของความทนทานต่อสารเคมี และ การทนความดัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันกับ PA11 คือในเรื่องของความแข็งของสายลม ซึ่ง PA12 มีความแข็งมากกว่าสายลม PA11 ซึ่งจะทำให้ต้องใช้แรงในการดัดโค้งงอสายลม PA12 มากกว่า สายลม PA11 ดังนั้น การใช้งานในจุดที่แคบ พื้นที่จำกัด เช่น การเดินสายลม ภายในตู้ Control นั้นทำได้ยากกว่าสายลม PA11
3 สายลม PE (Polyethylene)
ขนาดสายลม ตั้งแต่ O.D. 4 mm - O.D. 16 mm อุณหภูมิการใช้งาน 0̊C – 40̊C
สายลม PE (Polyethylene) เป็นสายลมอีกประเภท ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในงาน Pneumatic เช่นเดียวกับ สายลม PU (Polyurethane) ซึ่งคุณสมบัติของสายลม PE เมื่อเทียบกับ สายลม PU และสายลมประเภทอื่นๆ สายลม PE จะมีความเหนียว และสามารถทนความดันได้มากกว่า สายลม PU แต่จะทนได้น้อยกว่าสายลม PA และสายลม PTFE และสามารถทนทานต่อสารเคมีได้หลากหลายชนิดมากกว่า สายลม PU แต่จะทนสารเคมีได้น้อยกว่า สายลม PA และ สายลม PTFE ซึ่งสายลม PE นี้ มีความสามารถในการดัดโค้งได้น้อยกว่า สายลม PU สายลม PA และ สายลม PTFE
4 สายลม PTFE (Teflon)
ขนาดสายลม ตั้งแต่ O.D. 4 mm - O.D. 16 mm อุณหภูมิการใช้งาน (-60)̊C – 260̊C
สายลม PTFE หรือ สายลม Teflon ซึ่งจุดเด่นของ สายลม PTFE คือความสามารถในการใช้งานที่อุณหภูมิสูง ซึ่งสามารถใช้ที่อุณหภูมิสูงมากกว่าสายลมประเภทอื่นมาก โดยสามารถทนอุณหภูมิได้สูงถึง 260̊C ซึ่งเหมาะกับงานที่ต้องใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง และสามารถทนความดันได้มากกว่า สายลม PU และ สายลม PE แต่จะทนความดันได้น้อยกว่า สายลม PA และมีความสามารถในการทนสารเคมีที่หลากหลายชนิดมากกว่าสายลม PU และสายลม PE แต่จะทนสารเคมีได้น้อยกว่า สายลม PA และมีความสามารถในการดัดโค้งงอที่เท่าๆกับ สายลม PA และ สามารถดัดโค้งได้มากกว่า สายลม PE แต่สามารถดัดโค้งได้น้อยกว่า สายลม PU
ซึ่งประเภทสายลมที่ได้กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น สายลม PU สายลม PA สายลม PE และ สายลม PTFE ทาง
บริษัท นิวแม็ก จำกัด นั้นได้เป็นตัวแทนจำหน่ายของ แบรนด์ ZEC ซึ่งเป็นผู้ผลิตสายลมคุณภาพ จากประเทศอิตาลี
