Shock Absorber
กำลังการผลิตเป็นองค์ประกอบสำคัญของทุกอุตสาหกรรม การที่สามารถผลิตสิ่งต่างๆได้มากขึ้นโดยใช้เวลาเท่าเดิมหรือ
น้อยกว่าเดิมนั้นแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่การจะได้มาซึ่งผลผลิตที่มากขึ้นนั้นก็ต้องแลกมาด้วยการทำงานของเครื่องจักรที่รวดเร็วมากขึ้น และทำงานมากขึ้น
การเพิ่มความเร็วการทำงานเครื่องจักรนั้นทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น การสึกหรอเนื่องจากชิ้นส่วนที่มีการเคลื่อนที่ การเกิดแรงกระแทกต่างๆของกระบวนการ การเกิดเสียงรบกวน ตลอดจนการสั่นสะเทือนของเครื่องจักร สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องจักร และชิ้นส่วนของเครื่องจักรนั้นจะมีอายุการใช้งานสั้นลงกว่าปกติมาก ทำให้ต้องมีการซ่อมบำรุงเครื่องจักรบ่อยครั้ง ซึ่งนั่นส่งผลต่อกำลังการผลิต เนื่องจากต้องหยุดการทำงานของเครื่องจักร เพื่อตรวจเช็คความเสียหาย และทำการซ่อมบำรุง ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในกระบวนการผลิต และยังส่งผลทำให้ตัวผลิตภัณฑ์มีคุณภาพด้อยลงไปด้วย
Shock Absorber ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการเปลี่ยนรูปพลังงานจลน์ที่มากับความเร็วที่ของวัตถุให้เป็นพลังงานความร้อน แล้วกระจายพลังงานที่เกิดขึ้นดังกล่าวออกสู่สภาวะแวดล้อม ส่งผลให้แรงกระแทก ความเร็ว และแรงสั่นสะเทือนนั้นหายไปจากระบบ ซึ่งเหตุผลนี้จะส่งผลดีต่อเครื่องจักร และกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ
Energy Absorbtion
หลักการทำงานของ Shock Absorber คือการดูดซับพลังงานภายในระบบ และส่งถ่ายพลังงานที่ได้รับออกสู่สภาวะแวดล้อมในรูปแบบพลังงานความร้อน จากรูปจะแสดงการนำอุปกรณ์ต่างๆ มาเปรียบเทียบการทำงาน ซึ่งจะแสดงถึงประสิทธิภาพ ข้อดี และข้อเสียของแต่ละอุปกรณ์ หากนำมาใช้งานในการดูดซับพลังงานภายในระบบ
Rubber Bumper & Metal Spring
เมื่อวัตถุตกลงมากระทบกับตัวอุปกรณ์ พลังงานจากตัววัตถุจะถูกส่งไปยังตัวอุปกรณ์ ทำให้เกิดการอัดตัวของตัวของลูกยาง
หรือสปริง และเมื่อพลังงานจากตัววัตถุถูกดูดซับจนหมด พลังงานที่ถูกเก็บไว้ในตัวอุปกรณ์จะถูกปล่อยย้อนกลับไปหาวัตถุ จึงเกิดแรงกระทำกับตัววัตถุส่งทำให้วัตถุเคลื่อนที่ย้อนกลับไปในทิศทางที่ตกลงมา ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการนำมาใช้งานในลักษณะนี้
Cylinder Cushion
ในการดูดซับพลังงานของตัว Cushion จะมีขีดจำกัดในการทำงานที่ต่ำ ไม่เพียงพอต่อการใช้ดูดซับพลังงานในหลายๆ
กระบวนการ เนื่องจากการทำงานของcushionมีช่วงระยะการทำงานที่สั้น และต้องใช้งานโดยที่ความดันดันภายในกระบอกลมต่ำ เนื่องจากถ้ามีความดันมากก็จะทำให้กระบอกลมออกแรงสู้กับวัตถุที่ตกลงมากระทบ (ไม่เกิดการดูดซับพลังงาน) ส่งผลทำให้พลังงานในระบบที่เกินความสามารถในการดูดซับของ cushion กระจายสู่ภายนอกในรูปแบบ แรงกระแทก แรงสั่น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อโครงสร้างเครื่องจักร และ ผลิตภัณฑ์ เพราะฉนั้น cushion จึงไม่เป็นที่ต้องการในการทำงานลักษณะนี้
Shock Absorber
การใช้อุปกรณ์ Shock Absorber ดูดซับพลังงานในระบบนั้นเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด เนื่องจากพลังงานจลน์จะถูกดูดซับ
เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน และความร้อนจะกระจายออกสู่นอกระบบผ่านผิวของ Shock Absorber ซึ่งนั่นนอกจากจะทำให้ไม่มีพลังงานหลงเหลือภายในระบบ พอที่จะเปลี่ยนเป็นแรงกระแทก หรือแรงสั่น แล้วนั้นยังไม่เกิดการย้อนกลับของพลังงานเหมือนกรณีที่ใช้สปริงอีกด้วย
Shock Absorber มีทั้งแบบปรับค่าความแข็งได้ และ ไม่สามารถปรับค่าความแข็งได้
สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม
Advantages of Shock Absorber
- Longer Machine Life
- Higher Operating Speeds
- Improved Production Quality
- Safer Machinery Operation
Type of Shock Absorber
Adjustable Single Orifice
เหมาะสมใช้กับงานที่มีความเร็วการเคลื่อนที่ของวัตถุสูง น้ำหนักของวัตถุที่มากระแทกเบา ด้วยโครงสร้างแบบ
Single Orifice ทำให้ดูดซับพลังงานได้ดีมากในช่วงแรกของระยะ Stroke ไม่ควรใช้กับงานที่วัตถุที่มีน้ำหนักมาก
Adjustable Multiple Orifice
เหมาะสมใช้กับงานที่มีความเร็วการเคลื่อนที่ของวัตถุสูง น้ำหนักของวัตถุที่มากระแทกเบา ด้วยโครงสร้างแบบ
Single Orifice ทำให้ดูดซับพลังงานได้ดีมากในช่วงแรกของระยะ Stroke ไม่ควรใช้กับงานที่วัตถุที่มีน้ำหนักมาก
Non-Adjustable Shock Absorber Multiple Orifice
ECO Series การทำงานของ Shock absorber ซีรี่นี้ มีความพิเศษในเรื่องของการนำไปใช้งาน ซึ่งสามารถใช้งาน
ได้กับกระบวนการที่ความเร็ว หรือ น้ำหนักของวัตถุไม่แน่นอน เนื่องจากโครงสร้างการวางตำแหน่งของรู orifice ซึ่งแต่ละช่วง Stroke ของ Shock absorber นั้น ระยะห่างของรู orifice จะไม่เท่ากัน ส่งผลให้มีการทำงานที่มีความยืดหยุ่นสูง
Adjustable Techniques
การปรับใช้งานอย่างถูกต้องจะทำให้การกระจายของพลังงานเป็นไปอย่างปลอดภัย ลดปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น
ภายในระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การหมุนตั้งค่าสามารถหมุนตั้งค่าได้ตั้งแต่ เลข “0” ถึงเลข “8” โดยที่เลข “0” คือการเปิดช่องรู orifice และเลข “8”
คือการลดพื้นที่หรือจำนวนรู orifice ที่เปิดอยู่ให้เหลือน้อยที่สุด
ในการติดตั้งใช้งานครั้งแรกให้ทำการหมุนตั้งค่าไว้ที่ “0” ก่อน แล้วทำการเปิดใช้งานเครื่องจักร เพื่อทำการสังเก9
การทำงานช่วงสุดท้ายของระบบ หากมีแรงกระแทกส่งไปถึงเครื่องจักร ให้ทำการหมุนปรับเป็นเลข “1” แล้วจึงลองทดสอบดูอีกครั้ง ทำซ้ำๆจนได้ค่าการปรับที่เหมาะสม
*** ห้ามหมุนปรับข้ามเลข เพราะอาจจะเกิดผลเสียต่อตัวอุปกรณ์ หรือเครื่องจักรได้