การเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่อง Wire EDM โดยการเปลี่ยนไส้กรอง
กระบวนการตัดชิ้นงานของเครื่อง Wire EDM ทำให้เกิดเศษวัสดุขนาดเล็กจากเส้นลวดไฟฟ้าและชิ้นงานที่ถูกตัด เศษวัสดุขนาดเล็กเหล่านี้มีขนาดแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเภทของชิ้นงาน ชนิดของเส้นลวดและกำลังของเครื่องที่นำไปใช้ เส้นลวดที่นำมาใช้ในการตัดมีหลากหลาย เช่น เส้นลวดแบบ micro-grain carbide, tool steel และ aluminum หรือรวมไปถึง ทองเหลือง และเส้นลวดเคลือบสังกะสี ซึ่งล้วนก่อให้เกิดเศษวัสดุขนาดเล็กที่ขนาดแตกต่างกัน
เศษวัสดุขนาดเล็กเหล่านี้ อาจทำให้เครื่อง EDM เกิดปัญหาใหญ่ เนื่องจากสิ่งสกปรกที่มีขนาดเล็กระดับไมครอน จะทำให้เครื่อง Wire EDM มีประสิทธิภาพการทำงานน้อยลง การประหยัดค่าใช้จ่ายโดยการเปลี่ยนไส้กรองที่มีราคาถูกและไม่ได้มาตรฐาน จะทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น เนื่องจาก ใช้ความเร็วในการตัดลดลง, พื้นผิวของชิ้นงานมีคุณภาพต่ำ, ต้องใช้เส้นลวดที่มากกว่าปกติ และทำให้อุปกรณ์ในเครื่อง Wire EDM ทำงานหนักมากขึ้น สิ่งสกปรกจำนวนมากที่สามารถผ่านไส้กรองไปได้ จะทำให้สิ่งสกปรกนี้ผ่านเข้าสู่ระบบ และติดอยู่บนชิ้นงาน จนไม่สามารถได้ชิ้นงานตามที่ต้องการ สิ่งสกปรกที่เพิ่มขึ้นทำให้อายุการใช้งานของเครื่อง EDM สั้นลงและใช้เวลาในการผลิตมากขึ้น เนื่องจากต้องเสียเวลาในการซ่อมบำรุง
เมื่อสิ่งสกปรกเหล่านี้เข้าสู่ระบบผ่านตัวปั๊ม จะเริ่มมีการสะสมจนทำให้อุปกรณ์ส่วนต่างๆ ชำรุด เช่น solenoid valves, flow meters, jet nozzles, guides และ bearings เนื่องจากไส้กรองมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่อง Wire EDM จึงมีความสำคัญในการเลือกใช้ไส้กรองที่เชื่อถือได้ ไม่เพียงแต่ขนาดไส้กรองและความละเอียดที่เท่ากัน แต่จะต้องมีโครงสร้างที่เหมาะสมในการดักจับสิ่งสกปรก
ผู้ผลิตไส้กรองที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานมีการออกแบบพิเศษ ให้มีพื้นที่ในการดักสิ่งสกปรกมากยิ่งขึ้น อัตราการไหลที่ผ่านไส้กรองยังมีส่วนสำคัญต่อประสิทธิภาพของเครื่อง ไส้กรองขนาดเล็กกว่าที่เครื่อง Wire EDM ใช้ จะทำให้ไส้กรองตันเร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ต้องหยุดเครื่องเนื่องจากเปลี่ยนไส้กรองบ่อยมากขึ้น